ความรักของพ่อแม่
ชื่อ: anonymous
สวัสดีค่ะ เราเป็นคนหนึ่งที่เคยเป็นติ่งเกาหลี และชื่นชอบศิลปินวงนึงมากก็คือ Wannaone ในตอนนั้นเราอยู่แค่ ม.2 เราทำการขอพ่อว่าอยากไปดูคอนเสิร์ตนี้ เพราะวงกำลังจะยุบแล้วเนื่องจากมาจากการแข่งขันที่วงที่เดบิวต์จะมีสัญญาตามกำหนด ในตอนแรกพ่อเราไม่อนุญาต เราก็พยายามขออีกรอบ โดยค่อย ๆ อธิบายให้ท่านฟังว่าคอนสุดท้ายแล้วนะ สุดท้ายเค้าก็ให้ไปค่ะ แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องหาเงินไปเอง ซึ่งบัตรที่เราอยากไปราคา 5000 กว่าบาท ในตอนนั้นเราได้ทำงานเสริมอย่างการขายสินค้าออนไลน์ เป็นตัวแทนสินค้าขาย kpop รายได้ก็ไม่มากนัก เราเลยไปยืมเงินของรุ่นน้องของเรามาค่ะ น้องเค้าก็ให้เรามาครบทุกบาททุกสตางค์เลย แต่พอถึงวันกดบัตร เราจ้างคนกดบัตรคนนึงซึ่งราคาค่ารับกดก็ 500 บาท น้องเค้าก็ให้เราค่ะ แต่สรุปคือร้านกดไม่ได้ แต่เราก็ไม่ได้เอาเงินนั้นไปคืนน้องคนนั้นค่ะ เรานำไปซื้ออัลบั้มจากศิลปินอื่น ทำให้เงินไม่เหลือสักบาทค่ะ ตอนนั้นที่เราคิดได้คือเราต้องเก็บเงินอาทิตย์ละ 500 บาทเพื่อผ่อนคืนเงินน้องให้ครบ แต่พอมาวันนึง อาจารย์โทรหาพ่อแม่ของเราให้ทราบเรื่องนี้ค่ะ ประมาณว่าลูกของคุณติดเงินคนอื่นอยู่ เรากลัวหัวหดมากเพราะเราไม่เคยพูดเรื่องนี้กับพวกเขาเลย แต่สุดท้ายเราก็บอกความจริงค่ะ ความจริงทุกอย่างเลย พ่อกับแม่เราก็รับผิดชอบในวันต่อมา พ่อของเราก็นำเงินมาคืนให้กับคนที่เราไปติดเงินด้วย แล้วเค้าก็ค่อย ๆ สั่งสอนเราว่าไม่มีใครรักเราเท่าพวกเขาหรอก แล้วอีกอย่างถ้าลูกหาเงินเองไม่ได้พ่อกับแม่ก็พร้อมจะให้ จนเราก็ไม่กล้าติดเงินใครอีกเลย แต่แล้วเราก็ทำผิดพลาดอีกแล้วค่ะ เราได้ไปด่าอาจารย์ท่านที่โทรไปบอกพ่อแม่เราลงไอจีไพรเวท และมีพี่คนนึงที่สนิทกับอาจารย์แคปส่งไปให้อาจารย์ดูค่ะ วันต่อมาเราเป็นคนบอกพ่อกับแม่เองว่าเราทำผิดตรงนี้ จุดจบของเราจบที่เราไปกราบขอโทษคุณครูค่ะ โดนไล่ออกจากชุมนุม โดนเพื่อนทุกคนทั้งห้องเกลียดค่ะ เราไม่เข้าใจเลยว่าพี่คนนั้นเค้าแคปไปทำไม แต่มันก็ผิดที่เราเหมือนกันที่ไม่รู้จักการใช้โซเชียลให้เป็น ทำเป็นแต่เรื่องแบบนี้ หลังจากนั้นพ่อกับแม่ก็อยู่กับเรามาตลอดจริง ๆ ค่ะ เขาแก้ไขปัญหาให้เราแทบจะทุกอย่าง ถ้าไม่มีพวกเค้าในวันนั้นที่บอกให้เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราคงไม่ได้มีเพื่อนในตอนนี้ จากที่เราแทบจะไม่พูดไม่จากับครอบครัวกับคนที่บ้านเลย เราเข้าใจนะว่าบ้านไม่ใช่เซฟโซนของทุกคน ซึ่งในตอนนั้นเราก็ด้วย แต่ว่าการที่ได้พูดอะไรกับพ่อกับแม่ ได้เล่าเรื่องให้ฟังไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือว่าเรื่องชีวิตประจำวัน สำหรับเรามันมีความสุขจริง ๆ ค่ะ ถ้าพ่อแม่ของคุณดีกับคุณขนาดนั้น รักพวกเค้าให้มาก ๆ นะคะ ก่อนที่มันจะสายไป
ข้อคิด/บทเรียนที่ได้จากเรื่องนั้น
ไม่มีใครรักเราเท่ากับพ่อแม่ของเราเอง